ตำรวจ ปอศ. บุกค้นเพนต์เฮาส์หรูเมืองพัทยา รวบแก๊งรัสเซียเปิดเทรดเงินเถื่อน พบ 3 ปี เงินหมุนเวียนเฉียดแสนล้าน มีเหยื่อขาดทุนจนฆ่าตัวตาย
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 67
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. ร่วมสั่งการ พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ต.พิชญากร แตงรอด, พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัต สว.กก.5 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม นายอเล็กซี เว็กแมน (MR. ALEXEY VEGMAN) อายุ 40 ปี ชาวรัสเซีย ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1370/2567 ลงวันที่ 1 เม.ย. 2567 ข้อหา “ร่วมกันประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับซึ่งเป็นการให้บริการรับชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และยังเข้าตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และบ้านพักพื้นที่ ม.10 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นเอกสารเกี่ยวของบริษัท จำนวน 22 รายการ, โน้ตบุ๊ก 7 เครื่อง, โทรศัพท์ 3 เครื่อง, บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 6 ใบ, สมุดบัญชีธนาคาร 14 เล่ม, สมุดเช็ค 4 เล่ม, และ Secure Pass/Token 9 อัน
สืบเนื่องจากก่อนหน้ามีกลุ่มญาติของ น.ส.เอ (นามสมมติ) ที่ฆ่าตัวตายไปก่อนหน้านี้ ได้แจ้งเบาะแสมาว่า ก่อนจะเสียชีวิต น.ส.เอ ได้ชักชวนให้ผู้อื่นนำเงินมาร่วมลงทุนเทรดค่าเงินตราต่างประเทศ หรือ Forex ผ่านตนเอง มีผู้มาร่วมลงทุนด้วยกว่า 20 ล้านบาท ภายหลังปรากฏว่าขาดทุน ทำให้ น.ส.เอ ไม่มีเงินส่งคืนให้ จนเกิดความเครียดตัดสินใจฆ่าตัวตาย ทราบภายหลังว่าผู้ตายนำเงินไปลงทุนกับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะผิดกฎหมาย จึงขอให้ตำรวจตรวจสอบ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้เปิดบริษัทแห่งหนึ่งขึ้นมา โดยทำสัญญาการใช้บริการร้านค้า (Bill Payment) กับธนาคารพาณิชย์ เพื่อใช้เป็นช่องทางรับชำระเงินระหว่างกลุ่มผู้ร่วมลงทุนที่ต้องสมัครสมาชิกกับเว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งมีผู้สนใจเข้าไปเทรดค่าเงินจนเกิดความเสียหาย จนต้องกลายเป็นหนี้สินจำนวนมาก จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินบริษัทของผู้ต้องหาพบว่ามีเงินหมุนเวียนระยะเวลาแค่ 3 ปี เกือบ 1 แสนล้านบาท จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาล จ.ชลบุรี พร้อมเข้าจับกุมตัว นายอเล็กซี เว็กแมน ได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีพร้อมขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องต่อไป.
ขอบคุณข่าวจาก : https://www.thairath.co.th/news/crime/2776127
