กราฟกลับตัวดูยังไง? สอนวิธีดูสัญญาณเปลี่ยนเทรนด์แบบเข้าใจง่าย โดยใช้โครงสร้างราคาและเทรนด์ไลน์
กราฟกลับตัวดูยังไง? สอนวิธีดูสัญญาณเปลี่ยนเทรนด์แบบเข้าใจง่าย โดยใช้โครงสร้างราคาและเทรนด์ไลน์
ถ้าคุณเคยสงสัยว่า กราฟกลับตัวดูยังไง? หรือกำลังพยายามจับจังหวะเปลี่ยนเทรนด์แต่ยังไม่ชัดเจน บทความนี้คือคำตอบที่คุณตามหา เพราะจริง ๆ แล้วสัญญาณกลับตัวของกราฟไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากคุณเข้าใจโครงสร้างของเทรนด์และรู้จักใช้เทรนด์ไลน์อย่างถูกวิธี
ก่อนจะเข้าสู่เทคนิคดู สัญญาณกลับตัว ในตลาดจริง เราจะพาคุณไปทบทวน “เงื่อนไขของเทรนด์” แต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้น ขาลง หรือ Sideway เพื่อให้คุณมองภาพรวมของแนวโน้มราคาได้อย่างมั่นใจ และจังหวะไหนควรเข้าหรือหลีกเลี่ยง
เมื่อไหร่ที่กราฟจะกลับตัว? ผมเชื่อว่าหลายคนอาจเคยตั้งคำถามแบบนี้ ที่จริงแล้วการดูการกลับตัวหรือเปลี่ยนเทรนด์ของกราฟนั้นไม่ยาก เพียงแต่เราจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการดูเทรนด์และเข้าใจเงื่อนไขของแต่ละเทรนด์อย่างแม่นยำเสียก่อนจึงจะสามารถดูการกลับตัวหรือเปลี่ยนเทรนด์ของกราฟได้ ดังนั้นก่อนที่จะไปดูขั้นตอนดูการกลับตัวเปลี่ยนเทรนด์ของกราฟ ผมจะพาทุกคนไปทบทวนเงื่อนไขของเทรนด์แต่ละชนิดกันก่อนครับ
หากกราฟไม่เข้าเงื่อนไขของขาขึ้นหรือขาลง “ครบทั้งสองข้อ” จะถือว่ากราฟอยู่ในไซด์เวย์ทั้งหมด เอาล่ะครับในเมื่อทุกคนได้ทบทวนเงื่อนไขของแต่ละเทรนด์ไปแล้ว เราไปดูขั้นตอนการดูการกลับตัวของกราฟกันต่อเลย
ขั้นตอนดูการกลับตัวของกราฟมีแค่ 2 ขั้นตอน ดังนี้
ถึงแม้จะมีแค่ 2 ขั้นตอนก็ตาม แต่ต้องอาศัยความชำนาญในการดูโครงสร้างของเทรนด์เป็นอย่างมาก เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนและเข้าใจมากยิ่งขึ้นผมจะพาทุกคนจะไปดูตัวอย่างการกลับตัวของกราฟทีละ STEP แบบช้าๆกันครับ
หากเจอเทรนด์ขาขึ้น (หรือก็คือราคาทำ High และ Low ที่สูงขึ้นกว่าเดิม) ให้ตีเทรนด์ไลน์ประกบเทรนด์ขาขึ้นชุดนั้นเอาไว้ ตราบใดที่กราฟยังคงยืนเหนือเส้นเทรนด์ไลน์ แสดงว่าเทรนด์ขาขึ้นยังคงแข็งแกร่ง แน่นอนว่าถ้าเจอกราฟแบบนี้เราก็ยังสามารถหาจังหวะเข้า BUY ตามเทรนด์ขาขึ้นต่อได้
หากต่อมากราฟเบรกเส้นเทรนด์ไลน์ที่ตีไว้ลงมาได้ (ดูเส้นประสีส้มในภาพด้านบนประกอบ) แสดงว่าเทรนด์ชุดนั้นเริ่มมีการอ่อนแรงและให้เริ่มระวังการเปลี่ยนเทรนด์ แต่ยังถือว่าอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นเพราะยังไม่สามารถเบรก “จุดต่ำสุดที่สูงขึ้น” ทางด้านซ้ายมือลงไปได้
หากต่อมากราฟสามารถเบรก “จุดต่ำสุดที่สูงขึ้น” ทางด้านซ้ายมือลงไปได้ (ดูเส้นประสีชมพูในภาพด้านบนประกอบ) แสดงว่าเทรนด์ขาขึ้นถูกทำลายเพราะเงื่อนไขของเทรนด์ขาขึ้นไม่ครบทั้งสองข้อ กราฟในบริเวณเส้นประสีชมพู (จุด A) จึงถือว่าเริ่มเข้าสู่ไซด์เวย์ทันที
หากต่อมากราฟสามารถทำโครงสร้างของเทรนด์ขาลงได้ (ดูเส้นประสีแดงในภาพด้านบนประกอบ) จะเห็นว่ากราฟสามารถเบรก Low ก่อนหน้า ซึ่งเข้าเงื่อนไขของเทรนด์ขาลงครบทั้งสองข้อคือ ราคาทำ High และ Low ที่ต่ำลงกว่าเดิม แสดงว่ากราฟได้กลับตัวเปลี่ยนเทรนด์เข้าสู่ขาลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากตัวอย่างด้านบนพบว่ากราฟอยู่ในเทรนด์ขาลงและได้ตีเทรนด์ไลน์ประกบเทรนด์ขาลงไว้เรียบร้อย เมื่อกราฟเบรกเทรนด์ไลน์ขึ้นมาแสดงว่าเทรนด์ขาลงชุดนั้นเริ่มมีการอ่อนแรงและให้เริ่มระวังการเปลี่ยนเทรนด์ (แต่ยังคงอยู่ในเทรนด์ขาลงเพราะยังไม่สามารถเบรก LH ซึ่งเป็นโครงสร้างของเทรนด์ขาลงขึ้นไปได้)
และเมื่อกราฟเบรก LH (High ที่ต่ำลง) ซึ่งเป็นโครงสร้างของเทรนด์ขาลงชุดเดิมได้ ให้มองหาการทำโครงสร้างของเทรนด์ใหม่ทันที จากตัวอย่างนี้กราฟได้ทำโครงสร้างของเทรนด์ขาขึ้น (หรือก็คือราคาทำ High และ Low ที่สูงขึ้นกว่าเดิม) จึงถือว่าได้กลับตัวเข้าสู่เทรนด์ขาขึ้นเรียบร้อย และเทรนด์ขาขึ้นจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะมีการเบรกเทรนด์ไลน์และทำโครงสร้างของเทรนด์ใหม่
ข้อควรระวังในการดูการกลับตัว : การกลับตัวของไทม์เฟรมเล็กไม่ได้ทำให้ไทม์เฟรมที่ใหญ่กว่ากลับตัวไปด้วย ดังนั้นควรดูเทรนด์ในแต่ละไทม์เฟรมให้ดีก่อนเทรดทุกครั้งครับ
การดูกราฟกลับตัวไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเข้าใจโครงสร้างของเทรนด์แต่ละแบบ และรู้จักใช้เครื่องมือพื้นฐานอย่างเทรนด์ไลน์ร่วมด้วย จุดสำคัญคือการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของ High และ Low และการเบรกแนวรับแนวต้านที่สัมพันธ์กับเทรนด์เดิม
เมื่อฝึกฝนการดูกราฟกลับตัวจนแม่นยำ คุณจะสามารถจับจังหวะเข้าเทรดได้อย่างมั่นใจ ไม่พลาดโอกาสสำคัญ และลดความเสี่ยงจากการเข้าเทรดผิดฝั่ง เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จหลายคนเริ่มจากการเข้าใจสิ่งง่าย ๆ อย่างการกลับตัวนี่แหละค่ะ
📉 ยังดูกราฟกลับตัวไม่เป็นใช่ไหม?
คลิปนี้จะสอนคุณตั้งแต่พื้นฐานการดูเทรนด์ ไปจนถึงการจับสัญญาณเปลี่ยนทิศแบบแม่น ๆ
เข้าใจง่าย เห็นภาพชัด มือใหม่ก็ดูรู้เรื่อง!
▶️ คลิกดูคลิป
อยากลืมเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ ดู รีวิวโบรกเกอร์ Forex ก่อนตัดสินใจได้เลยคร๊าบบบบ
✏️ อยากตีเทรนด์ไลน์เป็น ต้องเข้าใจก่อนว่า “เทรนด์ไลน์” คืออะไร
เทรนด์ไลน์ไม่ใช่แค่เส้นบนกราฟ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณรู้ว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” ตอนไหน
👉 อ่านต่อ: สอนตีเทรนด์ไลน์ ฉบับขั้นเทพ เข้าใจง่าย