ตลาดหุ้นกำลังจะหมดลมหรือจะพัฒนาต่อไป
เราทุกคนต่างรู้ดีว่าตลาด หุ้นอ่อนไหวกับข่าวลือและการคาดการณ์มากเพียงใด แต่การล่มสลายจะเกิดขึ้นจริงหรือเป็นเพียงการสร้างความหวาดกลัว ทางเดียวที่จะเกิดภาวะตลาด หุ้นตกต่ำได้คือเมื่อความเชื่อมั่นของตลาดเปลี่ยนไปเป็นลบอย่างชัดเจน ดังนั้น เรามาสำรวจข้อมูลที่เรามีในตอนนี้และดูว่าเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นได้หรือไม่
Table of Contents
ความเสื่อมถอย
ตลาดสำคัญทั่วโลกเสื่อมถอยลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ยุโรป และสหราชอาณาจักร ซึ่งมีจำนวนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความเข้าใจทั่วไปเกี่ยวกับการเทรดชี้ให้เห็นว่าหุ้นเป็นตัวชี้วัดที่ยอดเยี่ยมซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของภูมิภาค แต่ความสัมพันธ์ดังกล่าวดูเหมือนจะห่างไกลจากความเป็นจริงทุกวันนี้
เราได้เห็นชาวอเมริกันประสบปัญหาจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ตลาด หุ้นสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจเยอรมันก็ประสบปัญหาเช่นกัน แต่ดัชนี DE กลับมีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม
ถ้าไม่ใช่เศรษฐกิจ แล้วอะไรคือแรงกระตุ้นความเสื่อมถอยครั้งล่าสุด
ในปี 2539 สหรัฐฯ มีหุ้นที่เทรดอยู่ในตลาดมากกว่า 8,000 ตัว แต่ภายในปี 2565 ตัวเลขนี้ตกลงมาอยู่ที่ 4,642 เช่นเดียวกับสหราชอาณาจักรที่มีจำนวนบริษัทจดทะเบียนในตลาดลดลง 25% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แม้การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) จะเป็นสาเหตุหลักของเรื่องนี้ก็ตาม
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้มีการคาดการณ์ว่าวันหนึ่งตราสารทุนที่เทรดในตลาด หุ้นอาจกลายเป็นกลุ่มสินทรัพย์ที่หายาก บริษัทที่เคยซื้อขายในตลาดถูกบริษัทนอกตลาดเข้าซื้อ ส่งผลให้หุ้นที่เทรดในตลาดมีจำนวนลดลง
บริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดมีแนวโน้มที่จะทำข้อตกลงกับบริษัทเอกชนเสนอเนื่องจากการกลั่นกรองทางกฎหมายและข้อกำหนดการรายงานที่เข้มงวดขึ้น ทำให้บริษัทใหม่ๆ สนใจที่จะจดทะเบียนในตลาด หุ้นน้อยลง บริษัทที่ลงทุนในหุ้นนอกตลาดอย่าง Blackrock, Vanguard และ State Street ถือครองสินทรัพย์มากกว่า 15 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งในสี่ของ S&P500 (US500)
การแปลงหุ้นทั่วโลกทั้งหมดไปสู่บริษัทจำกัดนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นไม่ได้ แต่ก็คงจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
ผลกระทบต่อเทรดเดอร์
สำหรับเทรดเดอร์ การลดลงของจำนวนบริษัทที่เทรดในตลาด หุ้นเป็นทั้งความท้าทายและโอกาส เมื่อจำนวนบริษัทที่เทรดในตลาดน้อยลง ราคาก็อาจผันผวนขึ้น ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงใหม่ๆ
ประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่างอินเดียยังคงมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคอย่างตะวันออกกลางเนื่องจากการฟื้นตัวของกิจกรรมการลงทุนและการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
สิ่งที่เราอาจเห็นคือการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นของปริมาณการซื้อขายในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งอาจรุนแรงขึ้นจากกลุ่มประเทศบริกส์และโครงการลดการพึ่งพาดอลลาร์อื่นๆ ตลาดที่เป็นที่รู้จักกันดีมีความอิ่มตัวสูงและนิ่งมาหลายทศวรรษ แต่ตลาดเกิดใหม่มักจะเป็นตลาดที่เราเห็นการเคลื่อนไหวที่รุนแรง เช่น ขาขึ้นที่ยาวนานและการดิ่งลงอย่างรวดเร็ว
สรุป
แม้ว่าตลาด หุ้นอาจดูเหมือนอยู่ในช่วงเสื่อมถอย แต่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจเป็นเพียงช่วงเปลี่ยนผ่าน ไม่ใช่การส่งสัญญาณสำคัญอะไร ในตอนนี้ ตลาด หุ้นยังได้รับความนิยมและแพร่หลาย และแม้กระแสจะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นการถือครองหุ้นในวงจำกัด แต่เทรดเดอร์ยุคใหม่ก็ยังมีโอกาสค้นพบการเทรดที่น่าสนใจ
ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มความเชื่อมั่นและเตรียมตัวให้พร้อมกระโจนลงไปหรือออกมาในทันที แอป Exness Trade เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ให้คุณดูพอร์ทการลงทุนได้ง่ายๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ดังนั้น แม้ว่าจะมีข่าวตลาด หุ้นกำลังจะหมดลมในสื่อต่างๆ แต่เทรดเดอร์อาจมองว่านี่เป็นกระบวนการพัฒนา ซึ่งมักมาพร้อมกับโอกาสใหม่ๆ ที่ยังไม่ถูกใช้ประโยชน์สำหรับผู้ที่คิดนอกกรอบ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
การวิเคราะห์วงจรตลาดทุน และ เศรษฐศาสตร์มหภาค