สอนตีเทรนด์ไลน์ ฉบับขั้นเทพ เข้าใจง่าย

สอนตีเทรนด์ไลน์ แบบเข้าใจง่าย วิเคราะห์กราฟได้แม่นขึ้น พร้อมเทคนิค Speed Line ใช้ได้จริงในตลาดจริง

สำหรับใครที่เริ่มต้นเทรดแล้วสงสัยว่า “เราจะรู้ได้ยังไงว่าราคากำลังจะขึ้นหรือลง?” ผมขอบอกเลยครับว่า หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของตลาดได้ชัดที่สุดก็คือ การตีเทรนด์ไลน์ และในบทความนี้ ผมจะมา สอนตีเทรนด์ไลน์ แบบเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่และคนที่อยากพัฒนาทักษะให้แม่นยำขึ้น พร้อมแนะนำเทคนิคเสริมอย่าง “เทรนด์ไลน์ย่อย” หรือ Speed Line ที่ใช้ช่วยหาจังหวะเข้าเทรดได้แม่นยิ่งขึ้นครับ

สอนตีเทรนด์ไลน์ ฉบับขั้นเทพ เข้าใจง่าย

Trendline (เทรนด์ไลน์) คือเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้สำหรับดูแนวรับ-แนวต้านชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นเส้นตรงที่แสดงทิศทางของกราฟตามแนวโน้มที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงนั้นๆ ซึ่งเทรนด์ไลน์จะเกิดจากการตีเส้นตรงเชื่อมระหว่าง 2 จุด

  • ถ้ากราฟเป็นเทรนด์ขาลง จะเริ่มตีจากจุด High สูงสุดไปยังจุด High ที่ต่ำลง
สอนตีเทรนด์ไลน์

ตราบใดที่กราฟยังอยู่ใต้เส้นเทรนด์ไลน์ขาลง สามารถหาโอกาสเข้า SELL โดยตั้ง SL ไว้เหนิือเส้นเทรนด์ไลน์ออกไปเล็กน้อยได้

  • ถ้ากราฟเป็นเทรนด์ขาขึ้น จะเริ่มตีจากจุด Low ต่ำสุดไปยังจุด Low ที่สูงขึ้น
สอนตีเทรนด์ไลน์

ตราบใดที่กราฟยังอยู่เหนือเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้น สามารถหาโอกาสเข้า BUY โดยตั้ง SL ไว้ใต้เส้นเทรนด์ไลน์ออกไปเล็กน้อยได้

ด้วยความที่เทรนด์ไลน์เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ถูกแถมมาให้ใช้ในทุกแพลตฟอร์มการเทรดแบบฟรีๆ จึงทำให้มักถูกมองข้าม ทั้งที่จริงแล้วมันสามารถช่วยให้การเทรดของเราสะดวกและง่ายขึ้นอย่างมาก ทั้งการหาจุดเข้ารันเทรนด์ การหาจุดเข้าจังหวะ Breakout รวมถึงการหาจุด CUTLOSS ก็ทำได้เช่นกัน ดังนั้นในบทความนี้ผมจะพาทุกคนไปดูวิธีการใช้เทรนด์ไลน์ฉบับขั้นเทพกันเลยครับ

สอนตีเทรนด์ไลน์

เมื่อกราฟทำจุดสูงสุดใหม่ที่มีความชันที่เพิ่มขึ้น จะสามารถตีเทรนด์ไลน์แยกออกมาจากจุด B ไปยังจุด C ที่มีความชันเพิ่มขึ้นได้ และเราจะเรียกเส้นๆนั้นว่า “สปีดไลน์ หรือ เทรนด์ไลน์ย่อย”


สปีดไลน์คือเส้นแนวรับ-แนวต้านที่ทำหน้าที่เช่นเดียวกับเทรนด์ไลน์ทุกประการ เพียงแต่สปีดไลน์จะมีความชันที่มากกว่าและจะถูกตีแยกออกมาจากเส้นเทรนด์ไลน์ที่เป็นเส้นหลักเสมอ

หากกราฟสามารถทำจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดใหม่ที่มีความชันเพิ่มขึ้นเราจะสามารถตีเส้นสปีดไลน์หรือเทรนด์ไลน์ย่อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่จำกัด ดังภาพด้านล่างนี้ ตราบใดที่กราฟยังไม่มีการเบรกสปีดไลน์หรือเทรนด์ไลน์ย่อยลงมาแสดงว่าเทรนด์ขาขึ้นชุดนั้นยังคงดำเนินไปอย่างแข็งแกร่ง

Speed Line สปีดไลน์/เทรนด์ไลน์ย่อย

แน่นอนว่าถ้าเจอกราฟแบบนี้ที่ยังไม่มีการเบรกเทรนด์ไลน์ย่อยลงมาแม้แต่เส้นเดียว หน้าเทรดที่ได้เปรียบก็คือฝั่งบายตามเทรนด์เท่านั้นและไม่ควรที่จะเข้าไปสวนเซลโดยเด็ดขาด


ตัวอย่างการใช้เทรนด์ไลน์

จากภาพด้านบนจะเห็นว่ากราฟทองคำไทม์เฟรม H1 ได้อยู่ในเทรนด์ขาขึ้นเพราะกราฟทำ High และ Low ที่ยกสูงขึ้น เมื่อพบเทรนด์ขาขึ้นเราจะสามารถตีเทรนด์ไลน์ประกบเทรนด์ขาขึ้นได้โดยตีจาก Low ต่ำสุดซึ่งเป็นต้นเทรนด์ (ตีที่ไส้เทียน) ไปยัง Low ที่สูงขึ้น ทำให้ได้เส้นเทรนด์ไลน์สีแดงขึ้นมาหนึ่งเส้น ซึ่งต่อไปนี้ผมจะขอเรียกว่าเทรนด์ไลน์หลัก

และต่อมากราฟได้ทำ High ใหม่ที่มีความชันเพิ่มขึ้นทำให้สามารถตีเส้นสปีดไลน์ขึ้นมาได้อีกหนึ่งเส้นนั่นก็คือเส้นสีดำในภาพด้านบน ซึ่งต่อไปนี้ผมจะขอเรียกเส้นสปีดไลน์ว่าเทรนด์ไลน์ย่อย

ตราบใดที่กราฟยังไม่มีการเบรกเส้นเทรนด์ไลน์ย่อยลงมา เราจะถือว่าเทรนด์ขาขึ้นย่อยนี้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างแข็งแกร่ง “ดังนั้นจึงสามารถหาจังหวะเข้า BUY เพื่อเข้าไป Follow Trend โดยวาง SL ไว้ใต้เส้นเทรนด์ไลน์ชุดนั้นได้ (ทิ้งระยะห่างออกไปเล็กน้อย)”

ตัวอย่างการใช้เทรนด์ไลน์

แต่เมื่อใดก็ตามที่กราฟสามารถเบรกเทรนด์ไลน์ย่อยลงมาได้ จะแสดงถึงแรงซื้อของเทรนด์ย่อยที่เริ่มอ่อนแอลง “เมื่อแรงซื้อของเทรนด์ขาขึ้นย่อยอ่อนแอลงจะส่งผลให้กราฟมีโอกาสพักตัวลงไปยังบริเวณแนวรับถัดไป” ซึ่งจากภาพด้านบนแนวรับถัดไปก็คือ Demand Zone กับแนวรับจากเส้นเทรนด์ไลน์หลักสีแดง

ตัวอย่างการใช้เทรนด์ไลน์

ในเวลาต่อมากราฟได้พักตัวลงมาที่แนวรับจากเส้นเทรนด์ไลน์หลักสีแดง อีกทั้งเทรนด์ปัจจุบันในขณะนั้นได้เปลี่ยนเข้าสู่เทรนด์ขาลงอีกด้วย (ดูบริเวณวงรีในภาพด้านบนจะเห็นกราฟทำ High และ Low ที่ลดต่ำลง) แสดงว่ากราฟในปัจจุบันขณะนั้นเปลี่ยนเป็นขาลงเรียบร้อยแล้ว แต่จะสังเกตว่าราคายังอยู่เหนือเส้นเทรนด์ไลน์หลักขาขึ้นสีแดง ดังนั้นจึงถือว่าเทรนด์ขาลงชุดนี้เป็นแค่เทรนด์ย่อยภายใต้เทรนด์หลักขาขึ้นเท่านั้น

ตัวอย่างการใช้เทรนด์ไลน์

เมื่อพบว่าเทรนด์ปัจจุบันขาลงซึ่งเป็นเทรนด์ย่อยดันวิ่งอยู่เหนือเส้นเทรนด์ไลน์หลักขาขึ้นสีแดงแบบนี้ จำเป็นต้องเฝ้าระวังการเบรกขึ้นไปเหนือเส้นเทรนด์ไลน์ประกบขาลงย่อย (เส้นประสีม่วง) เพราะหากกลับขึ้นไปได้กราฟจะเปลี่ยนกลับเข้าสู่เทรนด์ขาขึ้นอีกครั้งตามเทรนด์หลัก

แน่นอนว่า “หากกราฟเบรกขึ้นไปเราก็สามารถเปิด BUY เพื่อเข้าจังหวะ Breakout ตามเทรนด์หลักโดยวาง SL ไว้ใต้เส้นเทรนด์ไลน์ชุดนั้น (ทิ้งระยะห่างออกไปเล็กน้อย)” และมีเป้ากำไรที่บริเวณ High ใหม่ดังภาพด้านล่างนี้นั่นเองครับ

ตัวอย่างการใช้เทรนด์ไลน์

เทรนด์ไลน์ไม่ใช่แค่เส้นที่ลากเล่น ๆ บนกราฟ แต่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยให้เรารู้ว่าควรเทรดตามแนวโน้ม หรือหลีกเลี่ยงช่วงที่ตลาดยังไม่ชัดเจนครับ จากบทความ สอนตีเทรนด์ไลน์ นี้ หวังว่าจะช่วยให้มองภาพตลาดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะถ้าใช้เทคนิค Speed Line ร่วมด้วย จะช่วยให้เข้าใจจังหวะเทรดในระยะสั้นได้ดีขึ้นอีกขั้น สุดท้าย อย่าลืมฝึกตีเทรนด์ไลน์ให้บ่อย ๆ ครับ เพราะยิ่งฝึก ก็ยิ่งแม่น และช่วยให้ตัดสินใจได้มั่นใจมากขึ้นครับ

📌 อยากเห็นตัวอย่างจริงใช่ไหมครับ?
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าการตีเทรนด์ไลน์ต้องลากยังไง จุดไหนควรเชื่อมกับจุดไหน แนะนำให้ไปดูคลิปนี้เลยครับ ผมสอนแบบจับมือทำ เห็นภาพชัด เข้าใจง่ายแน่นอน 👉 คลิกดูคลิปสอนแบบละเอียด

อยากลืมเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ ดู รีวิวโบรกเกอร์ Forex ก่อนตัดสินใจได้เลยคร๊าบบบบ

📖 อยากเข้าใจพฤติกรรมราคามากขึ้น?
หลังจากเรียนรู้การตีเทรนด์ไลน์ไปแล้ว อีกเรื่องพื้นฐานที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ “แนวรับ-แนวต้าน” ครับ เพราะจุดเหล่านี้คือบริเวณที่ราคามักมีปฏิกิริยาแรง ๆ บทความถัดไปนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า แนวรับ-แนวต้าน คืออะไร ใช้งานยังไงให้ได้ผลจริงในตลาด 👉 แนะนำให้อ่านต่อเลยครับ

แนะนำโบรกเกอร์
Founded Year 2008, leverage 1:2000, Platforms MT4/MT5, Website 14 languages
XM
Founded Year 2009, leverage 1:1000, Platforms MT4/MT5, Website 28 languages