Table of Contents
ประเทศต่างๆ ในโลกก็ล้วนมีสกุลเงินเฉพาะของตนเอง เช่น สกุลเงินบาทในประเทศไทย ดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา สำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์จะรู้กันดีว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนระหว่างสกุลเงินก็สามารถช่วยสร้างโอกาสในการทำกำไรได้ มาดูกันว่าเราจะสามารถใช้ประโยชน์จากตะกร้าค่าเงินในการเทรดฟอเร็กซ์ได้อย่างไรบ้าง
ตะกร้าค่าเงิน คืออะไร
โดยพื้นฐานแล้ว ตะกร้าค่าเงินคือกลุ่มสกุลเงินต่างๆ เอาไว้เพื่อใช้ดูแนวโน้มความแข็งค่าหรืออ่อนของค่าเงิน นักลงทุนหลายคนอาจเคยเห็นสำนวนยอดนิยมที่ว่า อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว ประโยคนี้แสดงให้เห็นว่าวิธีการดังกล่าวสามารถป้องกันปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับคนที่ใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในที่เดียวกันได้อย่างไรบ้าง
ในแวดวงการเทรดฟอเร็กซ์ถือว่าตะกร้าค่าเงินมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจในการเทรด เพราะตะกร้าค่าเงินจะนำมาใช้ในการคำนวณมูลค่าตลาดของสกุลเงินต่างๆ การดำเนินการนี้เรียกกันทั่วไปว่าการตรึงสกุลเงิน ซึ่งจะช่วยสร้างความเสถียรให้กับสกุลเงินและลดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นเกินจริง
ในกรณีนี้ สกุลเงินที่มีน้ำหนักต่างกันจะนำมาใส่ลงในตะกร้าเพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากการเทรดค่าเงิน กลยุทธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องนักลงทุน เทรดเดอร์ และธุรกิจจากความผันผวนจากการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
ประเภทของตะกร้าค่าเงิน
ตะกร้ามีสองประเภท ได้แก่
- ตะกร้าสกุลเงินคู่: สกุลเงินคู่และตะกร้าสกุลเงินหลายสกุล ประเภทแรกใช้สกุลเงินเพียง 2 สกุล
- ตะกร้าสกุลเงินหลายสกุล: ประกอบด้วยสกุลเงินหลายสกุล ตะกร้าสกุลเงินประเภทหลักและเป็นที่นิยมมากที่สุด สำหรับตะกร้าสกุลเงินหลายสกุลมักพบเห็นได้ทั่วไป เนื่องจากสกุลเงินหลายสกุลถูกผูกไว้กับสกุลเงินเดียว ทำให้มีสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปราศจากความเสี่ยงและมีความยืดหยุ่นสูงกว่า
สกุลเงินแต่ละสกุลในตะกร้าสกุลเงินจะมีน้ำหนักเฉพาะเจาะจงตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศที่สกุลเงินนั้นสังกัดอยู่ โดยพิจารณามูลค่ารวมของ GDP ของประเทศหนึ่งเทียบกับผลรวมของ GDP ของประเทศทั้งหมดที่ช่วยประกอบเป็นตะกร้าสกุลเงิน อีกวิธีหนึ่งพิจารณาจำนวนหุ้นที่ถือโดยประเทศต่างๆ และความถี่ในการดำเนินงานในประเทศนั้นๆ
น้ำหนักของสกุลเงินต่างๆ ในตะกร้า ค่าเงินมีวิธีกำหนดอย่างไร
น้ำหนักของสกุลเงินในตะกร้า ค่าเงินถูกกำหนดขึ้นโดยพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ขนาดเศรษฐกิจของประเทศที่เกี่ยวข้อง ปริมาณการค้า และสภาพคล่องของสกุลเงิน
ตัวอย่างเช่น ในตะกร้า ค่าเงิน SDR (สิทธิไถ่ถอนเงินพิเศษ) น้ำหนักจะถูกตรวจสอบทุก ๆ ห้าปีและปรับตามความสำคัญสัมพันธ์ของสกุลเงินในการค้าและการเงินระดับโลก ปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อราคา เช่น การส่งออกของประเทศ ปริมาณสำรองที่ถืออยู่ในสกุลเงิน และการใช้งานในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดน้ำหนักเหล่านี้
ความสำคัญของตะกร้า ค่าเงิน
ตะกร้าค่าเงินเป็นการรวมกลุ่มสกุลเงินที่รวบรวมไว้ภายใต้การจัดการสกุลเงินสำรอง สกุลเงินแต่ละสกุลจะได้รับน้ำหนักที่แน่นอน และสกุลเงินจำนวนมากจะถูกตรึงไว้ด้วยกันเพื่อสร้างสกุลเงินสำรอง แนวคิดตะกร้าค่าเงินสร้างขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกันและมีวัตถุประสงค์ที่ไม่เหมือนกัน สิ่งเหล่านี้เป็นการสะท้อนถึงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของระบบการเงินโลก
เริ่มแรกของแนวคิดตะกร้าเงินมาก จาก IMF ที่ริเริ่มแนวคิด SDR หรือย่อมาจาก Special Drawing Right คือ สิทธิไถ่ถอนเงิน สร้างขึ้นในปี 1969 สำหรับ SDR สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ของ Bretton Woods โดยทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์สำรองระหว่างประเทศเพื่อเสริมเงินสำรองอย่างเป็นทางการของประเทศสมาชิก IMF
เดิมที SDR กำหนดโดยใช้ทองคำในปริมาณคงที่ แต่ในปี 1974 ได้มีการกำหนดใหม่เป็นตะกร้า ค่าเงิน 16 สกุล ในปี 1974 ตะกร้า ค่าเงินของ IMF ได้รับการแก้ไขให้มีสกุลเงินเพิ่มขึ้นอีก 11 สกุลเงิน ส่งผลให้สกุลเงินทั้งหมดในตะกร้า SDR เพิ่มขึ้นเป็น 16 สกุลเงิน
ในปี 1981 จำนวนสกุลเงินที่ผูกกับเงินตราต่างประเทศทั้งหมดลดลงเหลือเพียงห้าสกุลเงินเท่านั้น ดังนั้น ในเดือนมกราคม 1999 ยูโรจึงเข้ามาแทนที่มาร์กเยอรมันและฟรังก์ สกุลเงินทั้งห้านี้ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร หยวนจีน เยนญี่ปุ่น และปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ
ตะกร้า ค่าเงินมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลาและความสำคัญอย่างมากสำหรับทั้งนักลงทุนและหน่วยงานการเงิน สำหรับหน่วยงานการเงิน ตะกร้า ค่าเงินถือเป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม สำหรับนักลงทุนเองตะกร้า ค่าเงินก็ช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราได้
ตัวอย่างของตะกร้า ค่าเงิน
เพื่อทำความเข้าใจการใช้งานจริงของตะกร้า ค่าเงิน มาดูตัวอย่างของตะกร้า ค่าเงินได้ดังต่อไปนี้
1. หน่วยสกุลเงินเอเชีย (ACU): ตะกร้า ค่าเงินนี้ประกอบด้วยสกุลเงินเอเชียต่างๆ
2. หน่วยสกุลเงินยุโรป (ECU): ซึ่งรวมถึงสกุลเงินยุโรปหลายสกุล
3. ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (USDX): ตะกร้า ค่าเงินนี้ประกอบด้วยสกุลเงินหลักของโลก 6 สกุล โดยถ่วงน้ำหนักเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
หน่วยงานด้านการเงิน เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในสหรัฐอเมริกา ใช้ตะกร้า ค่าเงินเป็นข้อมูลอ้างอิงในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินของตนเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ของโลก แทนที่จะผูกสกุลเงินของตนกับสกุลเงินต่างประเทศสกุลเดียว Fed ใช้ตะกร้า ค่าเงินที่หลากหลายซึ่งรวมถึงสกุลเงินต่างประเทศหลากหลายสกุล
ตัวอย่างตะกร้าชอร์ต USD
ตะกร้าชอร์ต USD หรือ Basket of USD Shorts หมายถึงกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ที่เกี่ยวข้องกับการขายเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับกลุ่มสกุลเงิน แทนที่จะเทียบกับคู่สกุลเงินเพียงคู่เดียว
กลยุทธ์การเทรดตะกร้าชอร์ต USD คือกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ที่ Short หรือขายดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ถือสถานะ long หรือซื้อในตะกร้าสกุลเงินอื่น ๆ เช่น ตะกร้า ค่าเงินชอร์ต EUR/USD คือเป็นการ Short USD, Long ยูโร ที่คาดหวังว่ายูโรจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ USD การเทรดลักษณะนี้เป็นกลยุทธ์การซื้อขายดอลลาร์สหรัฐฯ ในภาวะขาลงซึ่งจะให้ผลตอบแทนหากสกุลเงินอื่น ๆ เกิดแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น การใช้ตะกร้าจะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของการเทรดได้
โดยสรุปแล้วตะกร้าชอร์ต USD เป็นแนวทางในการเก็งกำไรจากการอ่อนค่าของ USD โดยการกระจายตำแหน่งข้ามสกุลเงินหลายสกุล นักลงทุนสามารถลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่ง และอาจได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของ USD ได้
วิธีการสร้างตะกร้า ค่าเงิน
ในฐานะนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ คุณสามารถสร้างตะกร้า ค่าเงินของคุณเองโดยมีน้ำหนักที่แตกต่างกันตามกลยุทธ์การลงทุนและเป้าหมายทางการเงินของคุณ
ตัวอย่างตะกร้า ค่าเงินที่มีชื่อเสียง ได้แก่
- สิทธิไถ่ถอนเงินพิเศษ (SDR): ออกโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) SDR เป็นตะกร้า ค่าเงินหลัก 5 สกุล (ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร หยวนจีน เยนญี่ปุ่น และปอนด์อังกฤษ) SDR ทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์สำรองระหว่างประเทศเพื่อเสริมเงินสำรองอย่างเป็นทางการของประเทศสมาชิก
- ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (USDX): ตะกร้า ค่าเงินหลัก 6 สกุล (ยูโร เยนญี่ปุ่น ปอนด์อังกฤษ ดอลลาร์แคนาดา โครนาสวีเดน และฟรังก์สวิส) ใช้ในการวัดมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศเหล่านี้
- หน่วยสกุลเงินยุโรป (ECU): ใช้ภายในระบบการเงินยุโรปก่อนที่จะมีการนำยูโรมาใช้ ECU เป็นตะกร้า ค่าเงินยุโรปที่ออกแบบมาเพื่อรักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนและเตรียมพร้อมสำหรับสกุลเงินร่วม
การสร้างตะกร้า ค่าเงินประกอบด้วยสองขั้นตอนหลัก ได้แก่
ขั้นตอนที่ 1 การเลือกสกุลเงิน
การเลือกส่วนประกอบของสกุลเงินในตะกร้า ค่าเงินขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของสกุลเงิน นักลงทุนอาจเลือกสกุลเงินที่มีเสถียรภาพหรือสภาพคล่อง เกณฑ์การเลือกอาจขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
ตัวอย่างเช่น ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (USDX) ใช้ในการวัดมูลค่าของเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้า ค่าเงินต่างประเทศ 6 สกุล ได้แก่ ยูโร ฟรังก์สวิส เยนญี่ปุ่น ดอลลาร์แคนาดา ปอนด์อังกฤษ และโครนาสวีเดน ดัชนีนี้จัดทำขึ้นไม่นานหลังจากข้อตกลงเบรตตันวูดส์สิ้นสุดลงในปี 1973 โดยมีฐานอยู่ที่ 100 และมูลค่าตั้งแต่นั้นมาจะสัมพันธ์กับฐานนี้ มูลค่าของดัชนีเป็นตัวบ่งชี้มูลค่าของเงินดอลลาร์ในตลาดโลกได้อย่างเหมาะสม
ขั้นตอนที่ 2 การเลือกน้ำหนัก
อัตราส่วนและน้ำหนักสัมพันธ์ของสกุลเงินแต่ละสกุลในตะกร้าจะกำหนดโดยวัตถุประสงค์ของตะกร้า นักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอาจเลือกสกุลเงินผสมที่คิดว่ามีเสถียรภาพ
ปัจจัยที่จะนำมาพิจารณา เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพของสกุลเงินได้ ดังนั้น น้ำหนักในตะกร้าจะสอดคล้องกับเกณฑ์ที่เลือกสำหรับสกุลเงิน
ตัวอย่างเช่น ใน USDX สกุลเงินต่างๆ จะถูกถ่วงน้ำหนักตามความสำคัญของความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐอเมริกา เนื่องจากยุโรปเป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ยูโรจึงคิดเป็น 57.6% ของตะกร้า ค่าเงินทั้งหมด
ตะกร้า ค่าเงินช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างไร
ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินก่อให้เกิดความเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์อย่างมาก นักลงทุนสามารถบรรเทาความเสี่ยงเหล่านี้ได้โดยการใช้ตะกร้า ค่าเงิน เพราะ ตะกร้า ค่าเงินที่หลากหลายช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงไปยังสกุลเงินต่าง ๆ ได้ หากสกุลเงินหนึ่งทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน กำไรจากสกุลเงินอื่นๆ ในตะกร้า ค่าเงินสามารถชดเชยการสูญเสียได้ ทำให้พอร์ตการลงทุนมีเสถียรภาพมากขึ้น
การกระจายความเสี่ยงด้วยตะกร้า ค่าเงินนี้ช่วยลดผลกระทบของความผันผวนของสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งต่อมูลค่าโดยรวมของตะกร้า ค่าเงินเนื่องจากแต่ละสกุลเงินมีสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนที่แตกต่างกัน ดังนั้น หากสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งมีการเสื่อมค่าหรือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางการเมือง หรือการเก็งกำไรในตลาด ผลกระทบโดยรวมต่อมูลค่าของตะกร้า ค่าเงินจะได้รับการบรรเทาโดยประสิทธิภาพของสกุลเงินอื่นๆ ภายในตะกร้า ค่าเงินนั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้น โดยการใช้ตะกร้า ค่าเงินจะช่วยให้การประเมินมูลค่าอิงตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่หลากหลายจากหลายประเทศ แนวทางการใช้สกุลเงินหลายสกุลนี้ช่วยลดโอกาสที่ความผันผวนรุนแรงจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ไม่เหมือนกันในเศรษฐกิจเดียว และทำให้กลไกการประเมินมูลค่ามีเสถียรภาพและเชื่อถือได้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ นักลงทุน เทรดเดอร์จึงสามารถตัดสินใจลงทุนหรือเทรดได้ด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ข้อจำกัดของตะกร้า ค่าเงิน
แม้ว่าตะกร้า ค่าเงินจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มาพร้อมกับข้อจำกัดบางประการ ดังนี้
- ความซับซ้อน: การสร้างและจัดการตะกร้า ค่าเงินต้องอาศัยความรู้และทรัพยากรทางการเงินที่ซับซ้อน นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและปรับองค์ประกอบของตะกร้า ค่าเงินให้เหมาะสม
- อิทธิพลของตลาด: ตะกร้า ค่าเงินอาจได้รับอิทธิพลจากการเก็งกำไรในตลาดและเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของสภาพเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของสกุลเงินภายในตะกร้า ค่าเงิน
- ต้นทุนของการกระจายการลงทุน: การกระจายการลงทุนในสกุลเงินต่างๆ อาจเกี่ยวข้องกับต้นทุนและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงขึ้น นักลงทุนต้องชั่งน้ำหนักต้นทุนเหล่านี้กับผลประโยชน์ที่อาจได้รับจากความเสี่ยงที่ลดลง
ผลกระทบของตะกร้า ค่าเงินต่อการค้าโลก
ตะกร้า ค่าเงินมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกในการค้าโลกโดยให้กรอบอัตราแลกเปลี่ยนที่มั่นคง เมื่อประเทศต่างๆ ใช้ตะกร้า ค่าเงิน ก็จะลดความผันผวนและความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนทวิภาคีได้ เสถียรภาพนี้ส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและความร่วมมือระหว่างประเทศ
ตัวอย่างเช่น การที่เขตยูโรรับยูโรเป็นสกุลเงินร่วมทำให้ขจัดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศสมาชิกได้ ซึ่งช่วยส่งเสริมการค้าภายในยุโรป ในทำนองเดียวกัน ตะกร้า ค่าเงินที่ใช้โดยเศรษฐกิจเกิดใหม่ช่วยให้พสามารถจัดการสกุลเงินของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก
สรุป
ตะกร้า ค่าเงินเป็นเครื่องมือสำคัญในโลกของการเทรดฟอเร็กซ์และการจัดการเรื่องเงินระดับโลก ตะกร้า ค่าเงินเป็นเครื่องมือที่มีโครงสร้างในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนและบรรเทาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของสกุลเงิน การกระจายการลงทุนในสกุลเงินต่างๆ จะทำให้ผู้ลงทุนมีพอร์ตการลงทุนที่มั่นคงและยืดหยุ่นมากขึ้น
เมื่อมองไปยังอนาคต บทบาทของตะกร้า ค่าเงินจะขยายตัวและพัฒนาไปพร้อมกับการรวมเอาสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ ความร่วมมือในระดับภูมิภาค และการวิเคราะห์ขั้นสูง สำหรับนักลงทุนและหน่วยงานด้านการเงิน การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากตะกร้า ค่าเงินจะเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ที่มีประสบการณ์มานานหรือเป็นนักลงทุนมือใหม่ ข้อมูลที่ได้รับจากการทำความเข้าใจตะกร้า ค่าเงินสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจการเทรดในโลกการเงินระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้
ที่มา https://www.mitrade.com/th/insights
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
การเทรด Forex ด้วย AI ใช้งานได้จริงหรือไม่ ในปี 2024