FVG คืออะไร? รู้จัก Fair Value Gap จุดช่องว่างราคาที่เทรดเดอร์ใช้หาจุดเข้าเทรดคม ๆ พร้อมวิธีดูบนกราฟจริง เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง เหมาะกับทั้งมือใหม่และสายเทคนิค
FVG คืออะไร? รู้จัก Fair Value Gap จุดช่องว่างราคาที่เทรดเดอร์ใช้หาจุดเข้าเทรดคม ๆ พร้อมวิธีดูบนกราฟจริง เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง เหมาะกับทั้งมือใหม่และสายเทคนิค
ถ้าคุณกำลังสงสัยว่า FVG คืออะไร หรือเคยเห็นกราฟที่ราคาพุ่งแรงไปในทิศทางหนึ่งแล้วจู่ ๆ ย้อนกลับมาทดสอบจุดเดิม ก่อนจะพุ่งต่ออีกครั้ง พฤติกรรมแบบนี้มักเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่า Fair Value Gap (FVG)
FVG คือช่องว่างของราคาที่เกิดขึ้นจากแรงซื้อหรือแรงขายที่ไม่สมดุล โดยมักจะทิ้งร่องรอยไว้ระหว่างแท่งเทียน ซึ่งในอนาคตราคามีโอกาสกลับมา “เติมเต็มช่องว่าง” ตรงนั้น และนั่นแหละครับคือโอกาสทองในการ หาจุดเข้าเทรดคมๆ ด้วย FVG บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักแนวคิดของ FVG ตั้งแต่พื้นฐาน วิธีดูในกราฟจริง ไปจนถึงเทคนิคการใช้งาน พร้อมอินดิเคเตอร์ที่ช่วยให้คุณมองเห็น FVG ได้ชัดเจนและง่ายขึ้นใน TradingView ครับ
Fair Value Gap (FVG) คือ แนวรับ-แนวต้านที่เกิดจากช่องว่างของราคาระหว่างแท่งเทียนแท่งที่ 1 กับแท่งที่ 3 โดยช่องว่างนั้นถูกมองว่าเป็นพื้นที่ราคา “ที่ไม่สมดุล” และมีการคงค้างของแรงซื้อ/แรงขาย ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ราคาจะกลับมา “เติมเต็ม” ช่องว่างราคาที่ไม่สมดุลนั้นในภายหลัง
ซึ่งเราจะสามารถใช้ประโยชน์จากการที่กราฟกลับมาเติมเต็มช่องว่างที่ไม่สมดุลนั้นด้วยการหาโอกาสเข้าเทรดและตั้ง SL ได้เช่นเดียวกันกับความรู้ในเรื่อง Demand / Supply Zone และ Order Block เพราะทั้งคู่ต่างทำหน้าที่เป็นแนวรับ-แนวต้านเหมือนกัน เพียงแต่มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกันเท่านั้นครับ
โดย FVG นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
เมื่อกราฟปรับตัวขึ้นรุนแรงจนเกิดแท่งเทียนขนาดใหญ่ ให้ตีโซนไปที่ช่องว่างระหว่างไส้เทียนของแท่งที่ 1 และ 3 ทำให้ได้โซน Bullish FVG “หากในเวลาต่อมากราฟได้ย้อนกลับลงมาทดสอบโซน Bullish FVG นี้ จะมีโอกาสโดนแรงซื้อที่คงค้างส่งให้กราฟปรับตัวขึ้นไป”
เมื่อกราฟปรับตัวลงรุนแรงจนเกิดแท่งเทียนขนาดใหญ่ให้ตีโซนไปที่ช่องว่างระหว่างไส้เทียนของแท่งที่ 1 และ 3 ทำให้ได้โซน Bearish FVG “หากในเวลาต่อมากราฟได้ย้อนกลับขึ้นมาทดสอบบริเวณโซน Bearish FVG นี้ จะมีโอกาสโดนแรงขายที่คงค้างส่งให้กราฟปรับตัวลงไป”
จากภาพกราฟทองคำในไทม์เฟรม H1 มีเทรนด์ปัจจุบันในขณะนั้นอยู่ในขาขึ้นและได้ปรับตัวขึ้นรุนแรงจนมีแท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ขึ้นมา เมื่อเจอแท่งสีเขียวยาวๆแบบนี้ให้เราทำการตีโซนไปที่ช่องว่างระหว่างไส้เทียนของแท่งที่ 1 และ 3 ทำให้ได้โซน Bullish FVG ขึ้นมา (สี่เหลี่ยมสีฟ้าในภาพด้านบน)
หากในเวลาต่อมากราฟได้ลงมาทดสอบบริเวณโซน FVG นี้ ไม่ว่าจะตรงขอบบนของโซน กลางโซน หรือขอบล่างของโซนก็ตาม ก็มีโอกาสโดนแรงซื้อที่คงค้างส่งให้กราฟปรับตัวขึ้นไป ดังนั้นจึงสามารถเข้าคำสั่ง Buy ตามเทรนด์ได้ทันที โดยตั้ง SL ใต้บริเวณ FVG นั้นๆ (ใช้ FVG โซนไหนเข้าคำสั่ง ให้ตั้ง SL ใต้โซนนั้นๆเสมอ)
ภาพต่อมาพบว่ากราฟได้โดนแรงซื้อที่คงค้างใน FVG โซนแรกส่งให้ปรับตัวขึ้นไป แต่ก็ได้สร้าง FVG โซนใหม่เพิ่มขึ้นอีกเพราะสามารถทำแท่งเขียวยาวให้ตีโซนใหม่ได้ ในกรณีนี้หากกราฟย้อนลงมาที่ FVG โซนใหม่ก็สามารถเปิดคำสั่ง Buy ตามเทรนด์เพิ่มได้แต่ต้องตั้ง SL ใต้โซนใหม่นั่นเองครับ
สุดท้ายกราฟก็ปรับตัวขึ้นตามเทรนด์ได้ และตราบใดก็ตามที่กราฟยังไม่ลงมาปิดขอบล่างของ FVG หรือเบรกลงไป โซน FVG นี้จะยังคงใช้เป็นแนวรับได้เรื่อยๆ แต่ถ้าหากกราฟลงมาปิดขอบล่างของ FVG ได้หรือเบรกลงไปจะต้องลบโซน FVG นั้นทิ้งทันที เพราะจะหมายความว่าไม่เหลือแรงซื้อคงค้างให้ใช้เป็นแนวรับได้อีกต่อไปครับ
จากภาพด้านบนกราฟมีเทรนด์ปัจจุบัน H1 อยู่ในไซด์เวย์ แต่อยู่ภายใต้เทรนด์ขาลงของ H4 และสามารถตีเส้นเทรนด์ไลน์หลักประกบเทรนด์ขาลงได้ดังภาพ (เส้นสีดำด้านบน) ทำให้สามารถพิจารณาหาจังหวะเพื่อเปิดคำสั่ง Sell ตามเทรนด์ H4 ลงมาได้ ซึ่งกราฟก็ได้ปรากฏแท่งเทียนสีแดงขนาดใหญ่ ทำให้ได้โซน Bearish FVG ขึ้นมา (สี่เหลี่ยมแดงในภาพด้านบน)
หากต่อมากราฟได้ขึ้นไปทดสอบบริเวณโซน FVG นี้ ก็มีโอกาสโดนแรงขายที่คงค้างส่งให้กราฟปรับตัวลงมา ดังนั้นจึงสามารถเข้าคำสั่ง Sell ได้ทันที โดยตั้ง SL เหนือบริเวณ FVG นั้นๆ
ถึงแม้ว่าการตีโซน FVG สามารถตีเองได้เพราะมีหลักการที่ไม่ซับซ้อนแต่ก็ทำให้เสียเวลาพอสมควรในการนั่งไล่ดูกราฟ แถมยังตาลายอีกด้วย ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะใช้อินดิเคเตอร์ในการตีโซน FVG ให้เราโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่าตัวนี้ใช้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆครับ
สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ Tradingview โดยตรงแล้วล็อกอินเข้าหน้ากราฟให้เรียบร้อย และค้นหาคำว่า “FVG (Nephew_Sam_)”ตามภาพด้านบนได้เลยครับ เมื่อกดเข้าไปก็จะได้อินดิเคเตอร์ที่ตี FVG ให้เราตามภาพด้านล่างนี้
สรุปแล้ว Fair Value Gap หรือ FVG คือแนวคิดที่ช่วยให้เราเข้าใจจุดที่ราคามีโอกาสกลับเข้ามาเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากความไม่สมดุลของแรงซื้อหรือแรงขาย ซึ่งโซนเหล่านี้สามารถใช้เป็นแนวรับหรือแนวต้านได้อย่างแม่นยำไม่แพ้ Demand/Supply Zone หรือ Order Block เลยครับ การรู้จักวิธีหา FVG และการวางแผนเทรดในบริเวณนี้ จะช่วยให้เรา หาจุดเข้าเทรดคมๆ ด้วย FVG ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในฝั่ง Buy และ Sell พร้อมตั้ง SL อย่างปลอดภัยตามหลักการที่ชัดเจน และหากคุณฝึกใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ใน TradingView ก็จะยิ่งช่วยประหยัดเวลาและมองเห็นโซนสำคัญได้ง่ายขึ้นครับ
ถ้าใครอยากเห็นตัวอย่างจริงของการใช้งาน FVG คู่กับแนวคิด Demand & Supply Zone และ Order Block แบบเข้าใจง่าย แนะนำให้ดูคลิปนี้เลยครับ 🎥 หาจุดเข้าทำกำไรด้วย Demand & Supply Zone และ Order Block
👉 คลิกดูคลิปที่นี่
อยากลืมเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ ดู รีวิวโบรกเกอร์ Forex ก่อนตัดสินใจได้เลยคร๊าบบบบ
📌 หลังจากเข้าใจวิธีหาจุดเข้าเทรดคม ๆ ด้วย FVG ไปแล้ว
อีกหนึ่งเทคนิคที่เทรดเดอร์มือโปรนิยมใช้ควบคู่กันก็คือ Divergence ครับ
👉 Divergence คืออะไร ใช้ได้จริงไหม?
บทความนี้จะพาไปดูการจับสัญญาณ “สวนทาง” ระหว่างกราฟราคาและอินดิเคเตอร์อย่าง MACD หรือ RSI ที่มักเกิดก่อนกราฟกลับตัว พร้อมตัวอย่างชัด ๆ และข้อควรระวังที่มือใหม่ต้องรู้ก่อนใช้งานจริง