Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร มีแนวคิดการเทรด Forex อย่างไร

Inner Circle Trader หรือที่รู้จักกันในนาม ICT คือ Michael J. Huddleston เทรดเดอร์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงในแวดวงเทรด Forex จากการแชร์กลยุทธ์ เทคนิค และ มุมมองการเทรดผ่านทางวิดีโอออนไลน์และฟอรั่มต่าง ๆ ซึ่งเนื้อหาที่เขาสอนนั้นเน้นไปที่การวิเคราะห์กราฟ การเทรดไปตามกระแสราคา และจิตวิทยาการเทรด

Inner Circle Trader

หัวใจหลักของแนวคิด Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร

Inner Circle Trader (ICT) มองว่าการเข้าใจโครงสร้างของตลาดและพฤติกรรมของกลุ่มทุนใหญ่ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเทรด โดยมีแนวคิดหลัก ๆ ดังนี้

  1. วิเคราะห์โครงสร้างตลาด (Market Structure) ICT เน้นการวิเคราะห์โครงสร้างตลาดโดยการระบุแนวรับแนวต้าน จุด Swing High และ Swing Low รวมถึงช่วงของการพักตัว เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาและจุดกลับตัวที่สำคัญ
  2. วิเคราะห์ปริมาณออร์เดอร์ (Order Flow) การสังเกตปริมาณการซื้อขายในตลาด โดยเฉพาะออเดอร์ขนาดใหญ่จากสถาบันการเงิน ถือเป็นปัจจัยบ่งชี้แนวโน้มราคาที่น่าเชื่อถือ ICT ให้ความสำคัญกับการมองหาบริเวณที่มีความต้องการในการถือครองสถานะซื้อหรือขายจำนวนมาก
  3. ระบุรูปแบบการเก็งกำไรของกลุ่มทุนใหญ่ (Market Manipulation) ICT ชี้ให้เห็นถึงรูปแบบการเก็งกำไรต่าง ๆ ของกลุ่มทุนใหญ่ที่มักนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาแบบฉับพลัน เช่น
  • Stop Hunting การทะลวง Stop Loss ของเทรดเดอร์รายย่อย
  • False Breakout การหลอกล่อให้เข้าออเดอร์ผิดทิศทาง
  • Market Manipulation กลยุทธ์อื่น ๆ ที่แนวคิด ICT ให้ความสำคัญ

กลยุทธ์การเทรดตามแนวคิด ICT

  1. หาระดับราคาสมดุล (Fair Value Gap) ICT ให้ความสำคัญกับการหาระดับราคาที่เหมาะสมในการเข้าเทรด โดยพิจารณาจากมูลค่าพื้นฐานของค่าเงินและระดับราคาตลาดที่สะท้อนมูลค่านั้น (Fair Value) การเทรดในช่วงที่มี Fair Value Gap เกิดขึ้นถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเทรด
  2. วิเคราะห์ช่วงราคาที่ซื้อขายในเซสชั่นเช้า (Asian Session Range) ช่วงเซสชั่นการเทรดเช้าโดยเฉพาะเซสชั่นเอเชียที่เปิดประมาณ 19.00 น. – 04.00 น. GMT จะให้ข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละวัน การวิเคราะห์ช่วงราคานี้จะช่วยให้เราคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้ดีขึ้น
  3. หา Order Block ที่สำคัญ Order Block คือโซนที่เกิดการสะสมของออเดอร์จำนวนมาก มักถูกควบคุมโดยกลุ่มทุนใหญ่ การเข้าเทรดในโซนนี้มีโอกาสที่ราคาจะย้อนกลับสูง
  4. ใช้ Pivot Point ในการหาแนวรับแนวต้าน Pivot Point เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ช่วยบอกระดับราคาที่สำคัญต่าง ๆ ICT นิยมใช้ Pivot Point เพื่อคาดการณ์การกลับตัวของราคาที่แนวรับและแนวต้าน
  5. หา Kill Zone สำหรับการเข้าออเดอร์ Kill Zone คือช่วงเวลาที่ตลาดเกิดความผันผวนและมีสภาพคล่องสูงระหว่างวัน เช่นช่วงที่ตลาดหลักเปิดทำการ การเทรดในช่วง Kill Zone มักให้ผลตอบแทนสูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน

คำศัพท์สำคัญของ ICT Strategy

  1. Premium / Discount Zone คือการแบ่งพื้นที่กราฟเป็นโซน Premium ด้านบน และ Discount ด้านล่าง โดยใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement โดยโซน 0 – 0.5 คือส่วนลด (Discount) และโซน 0.5 – 1.0 คือส่วนเพิ่ม (Premium) ซึ่งจะใช้อ้างอิงในการเปิดออเดอร์ Buy ที่โซน Discount และ Sell ที่โซน Premium
  2. Fair Value Gap (FVG) คือช่องว่างระหว่างราคาตลาดปัจจุบันกับมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ ซึ่งคำนวณจากปัจจัยพื้นฐาน (เช่น ดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ เป็นต้น) เมื่อเกิด FVG ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวกลับเข้าหาระดับมูลค่าที่แท้จริง เป็นโอกาสในการเทรดตามทิศทางนั้น
  3. Liquidity Hunt / Stop Hunt คือการที่กลุ่มทุนใหญ่กระตุ้นให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปยังบริเวณที่มี Liquidity หรือ Stop Loss ของเทรดเดอร์รายย่อย ก่อนจะเข้าไปเก็บออเดอร์แล้วดันราคากลับมาทิศทางเดิม ทำให้เทรดเดอร์รายย่อยต้องขาดทุนจากการโดน Stop Out ไป
  4. Liquidity Void คือบริเวณที่ไม่มีการซื้อขายหรือมีปริมาณการซื้อขายน้อยมาก มักเกิดขึ้นหลังจากราคาพุ่งขึ้นหรือร่วงลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากแรงซื้อหรือแรงขายหมดลงชั่วคราว การเทรดหลังจาก Liquidity Void อาจเป็นจังหวะของการกลับตัวของราคา
  5. Swing High / Swing Low คือจุดสูงสุดและต่ำสุดของราคาในช่วงเวลาหนึ่ง ที่สามารถถูกใช้เป็นแนวรับแนวต้าน Swing High คือจุดที่ราคาเปลี่ยนจากขาขึ้นเป็นขาลง ส่วน Swing Low คือจุดที่ราคาเปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้น
  6. Breaker Block คือแท่งเทียนที่ราคาปิดเหนือแนวต้านหรือต่ำกว่าแนวรับ แต่แท่งเทียนถัดไปกลับมาปิดในทิศทางตรงข้าม แสดงว่าการเบรกนั้นเป็นการหลอกล่อ การเทรดไปตามทิศทางเดิมหลัง Breaker Block มักจะเป็นทิศทางที่ถูกต้อง

ข้อควรระวังในการประยุกต์ใช้แนวคิด ICT

แม้ว่า ICT จะได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เทรดเดอร์ Forex แต่ก็มีข้อควรระวังดังนี้

  • ต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนจนเข้าใจระบบ ICT อย่างถ่องแท้
  • ICT อาจไม่เหมาะสมกับการเทรดเมื่อตลาดเกิดความผันผวนสูง
  • มีความซับซ้อนยากต่อการทำความเข้าใจสำหรับมือใหม่
  • เหมือนกลยุทธ์อื่น ๆ ก็ต้องอาศัยวินัยในการประยุกต์ใช้

สรุป

ICT Strategy เป็นแนวทางการเทรดที่มีกรอบแนวคิดชัดเจน ทั้งในเรื่องการวิเคราะห์โครงสร้างตลาด การอ่านปริมาณออร์เดอร์ และการหลีกเลี่ยงกลยุทธ์เก็งกำไรของกลุ่มทุนใหญ่

อย่างไรก็ตาม ICT อาจไม่ใช่กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเทรดเดอร์ทุกคน การประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยประสบการณ์และวินัยในระดับหนึ่ง ดังนั้นเทรดเดอร์จึงควรศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนจะนำไปใช้จริง และควรเสริมด้วยความรู้จากแหล่งอื่น ๆ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสไตล์การเทรดของตนเอง

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

รู้หรือไม่? Flag pattern ในการเทรดฟอเร็กซ์มีกี่ประเภท