STO คืออะไร วิธีการใช้ หาจุดเข้าเทรดในไทม์เฟรม M5

หาจุดเข้าออเดอร์แม่น ๆ ไม่จำเป็นต้องพึ่งอินดิเคเตอร์ซับซ้อนเสมอไป เพราะหนึ่งในเครื่องมือคลาสสิกที่นักเทรดทั่วโลกยังใช้อยู่ทุกวันนี้ก็คือ Stochastic Oscillator (STO) อินดิเคเตอร์วัดแรงซื้อ–แรงขายที่ช่วยบอกจังหวะ “พัก” หรือ “กลับตัว” ของราคาได้อย่างแม่นยำ ในบทความนี้ผมจะพาไปดูว่า STO คืออะไร ตั้งค่าแบบไหนให้ใช้งานได้จริง พร้อมเทคนิคหาจุดเข้าเทรดจาก STO ที่แม่นยำยิ่งขึ้นในไทม์เฟรม M5 ครับ

---

STO คืออะไร

Stochastic (หรือ STO) คือ เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นหรือสินทรัพย์ต่างๆ โดย STO จะใช้การเปรียบเทียบระหว่างราคาปิดของสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่งกับช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้นๆ โดยมีวัตถุประสงค์ในการหาจุดที่ราคาจะมีโอกาสพักหรือกลับตัว (ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีการตั้งค่า STO ที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนตัวผมจะใช้ STO ค่า 9/3/3 เพื่อหาจุดเข้าเทรด)

---

วิธีการใช้ STO

Stochastic (STO) สามารถใช้หาจุดเข้าเทรดได้ 3 รูปแบบ ดังนี้

1.เข้าเทรดด้วย Overbought / Oversold Levels

• เมื่อ Stochastic ขึ้นไปเหนือระดับ 80 (Overbought) เป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงที่ราคามีสภาวะการซื้อมากเกินไป และอาจเกิดการพักหรือกลับตัวลงได้
• เมื่อ Stochastic ตกลงต่ำกว่า 20 (Oversold) เป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงที่ราคามีสภาวะการขายมากเกินไป และอาจเกิดการพักหรือกลับตัวขึ้นได้

2.เข้าเทรดด้วย Crossovers

• %K (เส้นฟ้า) ตัด %D (เส้นแดง) จากล่างขึ้นบนในเขต Oversold เป็นสัญญาณซื้อ
• %K (เส้นฟ้า) ตัด %D (เส้นแดง) จากบนลงล่างในเขต Overbought เป็นสัญญาณขาย

3.เข้าด้วย Divergence

• การเบี่ยงเบนระหว่างราคาและ Stochastic เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนทิศทางราคาที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น หากราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ Stochastic ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ ก็อาจบ่งบอกว่าแรงซื้อกำลังลดลงและราคาอาจจะมีการพักหรือกลับตัว

---

ขั้นตอนการใช้ STO หาจุดเข้าเทรดในไทม์เฟรม M5

1. วิเคราะห์กราฟวางแผนเทรดในไทม์เฟรมใหญ่เสียก่อนเพื่อกำหนดทิศทางว่าในวันนั้นจะโฟกัสเทรดในฝั่งไหน BUY หรือ SELL ?
2. เข้ามาดูกราฟในไทม์เฟรม M5 เพื่อรอสัญญาณจาก STO ที่สอดคล้องกับแผนที่วางไว้

จากภาพด้านบนในวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ผมได้วางแผนเทรดทองคำเป็นแผนเซลเนื่องจากเป็นเทรนด์ขาลงในไทม์เฟรม H4 จึงให้น้ำหนักไปทางเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อลง ซึ่งแนวต้านที่น่าจับตามองก็คือบริเวณ Supply Zone H1 (โซนสีส้มด้านบน)

และเมื่อผมวางแผนได้ดังนี้จึงเข้าไปรอสัญญาณจาก STO ในไทม์เฟรม M5 ซึ่งช่วงเย็นของวันนั้นกราฟก็ได้ปรับตัวขึ้นมาบริเวณ Supply Zone H1 พร้อมกับมีสัญญาณเซลจาก STO สามอย่างพร้อมกันใน M5 คือ Overbought + Crossovers + Divergence จึงทำให้ตัดสินใจกด SELL ทันที (มีเพียงสัญญาณเดียวก็สามารถเข้าได้แต่เคสนี้มาถึง 3 จึงมีโอกาสสูงที่กราฟจะปรับตัวลง) และสุดท้ายกราฟก็สามารถปรับตัวลงตามแผนเซลที่วางไว้ได้ดังภาพด้านล่างนี้นั่นเองครับ

---

สรุป STO คืออะไร

Stochastic Oscillator หรือ STO คือเครื่องมือที่ใช้งานง่ายแต่ทรงพลังมากในการช่วยหาจุดเข้าเทรด โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับเทคนิคอื่น ๆ เช่น แนวรับแนวต้านหรือโซนสำคัญใน Timeframe ใหญ่ จากตัวอย่างในบทความนี้จะเห็นว่าแค่ใช้ STO อย่างมีแผน — ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณ Overbought/Oversold, Crossovers หรือแม้แต่ Divergence — ก็สามารถเพิ่มโอกาสเข้าเทรดได้อย่างมั่นใจและแม่นยำมากยิ่งขึ้นครับ

📹 เข้าต้นเทรนด์ ไม่เข้าปลายความหวัง!
รู้จักวิธีใช้ Stochastic Oscillator (STO) หาจุดเข้าเทรดแม่น ๆ ทั้งแบบ Overbought, Crossovers และ Divergence
👉 ดูคลิปเลย: การหาจุดเข้าเทรดด้วย STO | เรียนเทรดฟรี EP11

👉 คลิกดูคลิปที่นี่

อยากลืมเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ ดู รีวิวโบรกเกอร์ Forex ก่อนตัดสินใจได้เลยคร๊าบบบบ

📘 บทความถัดไปแนะนำ
การหาจุดเข้าเทรดด้วย Bollinger Bands – อินดิเคเตอร์จับจังหวะแกว่งตัวที่แม่นยำที่สุดตัวหนึ่ง
Bollinger Bands ไม่ได้มีดีแค่บอก “ความผันผวน” แต่ยังช่วยหาจุดเข้าเทรดได้แม่นมาก โดยเฉพาะช่วงที่กราฟบีบแคบ (Bollinger Band Squeeze) หรือแตะขอบบน–ล่างอย่างมีนัยยะ บทความนี้จะพาไปรู้จักวิธีใช้ BB อย่างมืออาชีพ พร้อมเทคนิคเข้าเทรดแบบปลายไส้ใน Timeframe M5
👉 อ่านเลย: การหาจุดเข้าเทรดด้วย Bollinger Bands