Table of Contents
เชื่อว่าเทรดเดอร์ และ นักลงทุนทุกท่านน่าจะคุ้นเคย หรือ ได้ยินเรื่องราวของ FOMC และ ประชุม FOMC หรือที่เราเรียกกันว่าประชุม Fed ผ่านหูผ่านตากันอยู่บ่อยๆ ในวันนี้เราจะชวนคุณมาพูดคุยเรื่องราว และ ความสำคัญของการประชุมนี้ พร้อมปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างเหมาะสม ถ้าพร้อมกันแล้วก็ตามมาทางนี้ได้เลย!
ประชุม Fed หรือ FOMC คือ : สำคัญอย่างไร ทำไมเราต้องติดตาม ?
FOMC คือ ส่วนหนึ่งของระบบ Federal Reserve หรือ Fed ที่เป็นหน่วยงานหลักในการทำหน้าที่ดูแลนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และ ทำการรวบรวมเกณฑ์ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย เพื่อการตัดสินใจในแนวทางของอัตราดอกเบี้ย เพื่อการบริหารจัดการเพื่อควบคุมการว่างงาน และ อัตราเงินเฟ้อ โดยในช่วงภาวะเศรษฐกิจปกติจะไว้ที่ประมาณ 2% เพื่อรองรับเสถียรภาพของราคาในระบบเศรษฐกิจ
Fed ประกอบด้วยสมาชิกในหน่วยงาน 12 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการเงิน และ เศรษฐศาสตร์ โดยมีกิจกรรมสำคัญที่เป็นที่จับตามองของสื่อทั่วโลกคือ การประชุมอย่างเป็นทางการที่มีการจัดขึ้น 8 ครั้งต่อปี ที่เราเรียกกันว่าประชุมเฟด หรือ FOMC ซึ่งเป็นสัญญาณที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจ และ ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของราคาต่างๆ โดยเฉพาะใน ตลาดหุ้น ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงตลาดหุ้นอเมริกา แต่อาจส่งผลต่อตลาดหุ้น ตราสารหนี้ และ ตราสารการเงินทั่วโลก
แน่นอนว่า การประชุมเฟดจะถูกติดตาม และ มีการวิเคราะห์อย่างใกล้ชิดจากสื่อทั่วโลก นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ทางการเงินต่างๆ ยังใช้ข้อมูลจากการประชุม Fed แต่ละครั้ง เพื่อหาสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินในปัจจุบัน และอนาคต แม้ว่า FOMC จะเน้นที่เศรษฐกิจ และ นโยบายการเงินของสหรัฐฯ แต่การตัดสินใจ และ แถลงการณ์ของคณะกรรมการก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อธนาคารกลางระดับโลกอื่นๆ เช่น ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) เป็นต้น
Fed Fund Rate หรือ FFR คือ ?
Fed Fund Rate (FFR) คือ เครื่องมือหลักอย่างหนึ่งของ Fed ในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยเป้าหมาย ที่มีอิทธิพลต่อจำนวนเงินที่ธนาคารในสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากการปล่อยกู้ข้ามคืน FFR จึงเป็น เป็นอัตราที่ธนาคารเรียกเก็บจากการเก็บเงินสดสำรองส่วนเกินในชั่วข้ามคืน
โดยคำแนะนำอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจปล่อยสินเชื่อของภาคธนาคาร ดังนั้น คำแนะนำอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงหมายความว่า Fed สนับสนุนให้กระแสเงินสดเข้าสู่เศรษฐกิจในรูปของสินเชื่อ หากเงินสำรองส่วนเกินไม่ได้รับดอกเบี้ยข้ามคืนมากนัก หรือ แม้กระทั่งมีค่าธรรมเนียมเนื่องจากดอกเบี้ยติดลบ ถือเป็นแรงจูงใจให้ภาคธนาคารเพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจ และ ครัวเรือนแทนเพื่อสร้างรายได้
ในทำนองเดียวกัน หากคำแนะนำของ Fed คือการเพิ่ม FFR ธนาคารจะได้รับค่าธรรมเนียมดอกเบี้ยข้ามคืนมากขึ้น การดำเนินการนี้มีความเสี่ยงด้านเครดิตน้อยกว่าสำหรับภาคการธนาคาร แต่ทำให้การกู้ยืมสำหรับธุรกิจ และ ครัวเรือนทำได้ยาก และมีราคาแพง
การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของ FOMC
ในระหว่างประชุม FOMC คณะกรรมการจะตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการตัดสินใจนี้จะเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับอัตราเงินเฟ้อผ่านแนวคิดทางเศรษฐกิจพื้นฐานของอุปสงค์ และอุปทาน
ในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตช้า และ ความต้องการสินค้า และบริการต่ำ อัตราดอกเบี้ยจึงมีแนวโน้มที่ต่ำ เพื่อจูงใจให้เกิดการกู้ยืมเงิน เพื่อเพิ่มกระแสเงินสด และ กระตุ้นความต้องการ จึงเป็นท่าทีที่ไม่เอื้ออำนวยที่สนับสนุนอัตราเงินเฟ้อ และสกุลเงินประจำชาติ
และ เมื่อเศรษฐกิจปรับตัวได้ดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยก็มักจะสูงขึ้นเพื่อควบคุมการกู้ยืม ควบคุมราคา และ ป้องกันความต้องการจากการดันราคาสูงเกินไป จึงเป็นจุดยืนที่ไม่ดี และ มีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดอัตราเงินเฟ้อ และ ป้องกันไม่ให้สกุลเงินของประเทศแข็งเกินไป
Quantitative Easing หรือ QE คือ ?
เครื่องมือที่ทรงพลังอีกอย่างหนึ่งในมือของประชุม Fed คือ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing หรือ QE) เมื่อเสถียรภาพของราคาถูกคุกคาม เช่นในวิกฤตซับไพรม์ในปี 2008 ที่ความล้มเหลวทางการเงินที่ตามมา หรือ ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 – 21 ที่ Fed ต้องเข้ามาสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยประชุม Fed ก็จะการดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนพันธบัตรของประเทศ และ เกิดเป็นมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
เมื่อความวุ่นวายทางเศรษฐกิจผ่านพ้นไป Fed ก็จะเริ่มขายสินทรัพย์ที่สร้างขึ้นจากงบดุลในแนวปฏิบัติที่เรียกว่า QE taping ในขณะเดียวกันประชุมFed ก็จะเริ่มพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามพัฒนาการของอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุน หรือ ทดลองกลยุทธ์ของคุณในช่วงเวลาที่ผันผวน เราขอแนะนำการใช้บัญชีทดลองเทรดเพื่อเรียนรู้ตลาดในสภาวะจริงแบบเรียลไทม์ ที่คุณสามารถดำเนินคำสั่งได้แบบไร้ความเสี่ยง จากการใช้เงินทุนเสมือนจึงไม่ต้องกังวลกับเงินทุนของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถทดลองใช้เครื่องมือการเทรดระดับมืออาชีพบนแพลตฟอร์มการเทรดของเรา สมัครบัญชีทดลองเทรดฟรีได้แล้ววันนี้ คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย!
ความเกี่ยวข้องของ FOMC และ ภูมิรัฐศาสตร์
ผลกระทบของเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีรายละเอียดสูง อาจเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจของ FOMC ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้อาจรวมถึงสงคราม หรือวิกฤต การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ เช่น ความไม่สงบในประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ หรือ อำนาจเชิงระบบในเศรษฐกิจโลก
ขณะนี้ระบบเศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกันเหมือนกับ WorldWideWeb ซึ่งหมายความว่าเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญในประเทศที่ห่างไกล ก็อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และ หากผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากพอ ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของ FOMC เช่นเดียวกัน
นโยบายการเงินที่เชื่อถือได้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ USD ได้รับการยอมรับว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Safe Haven Asset) และ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US treasury) ก็ยังมีความน่าเชื่อถือในระดับที่สูง
Hawkish กับ Dovish (เหยียวกับนกพิราบ)
ภาคการเงิน และ การธนาคารใช้ทิศทางจากจุดยืนปัจจุบันของ FOMC ในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ และ ตีความว่าเป็น Dovish หรือ นกพิราบที่ผ่อนปรน และ ในช่วงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หรือสูง ท่าทางจะเป็นแบบ Hawkish หรือ แบบเหยี่ยวที่แข็งกร้าว ในกรณีส่วนใหญ่ ท่าทีของ Dovish หมายถึงความหายนะทางเศรษฐกิจ
แต่ก็กล่าวได้ว่าการดำเนินนโยบายแบบ Dovish จะเป็นมิตรกับเครดิต ซึ่งทำให้เครดิตมีราคาไม่แพงเนื่องจากมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และ การกู้ยืมและ การลงทุนอาจทวีความรุนแรงขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าช่วง Hawkish นั้นไม่เป็นมิตรกับเครดิต แต่จุดประสงค์หลักในช่วงระยะเวลา Dovish คือการส่งเสริมการลงทุน การใช้จ่ายของผู้บริโภค และ การสร้างงาน จึงมีการสนับสนุนทางเครดิตที่ดีกว่า
ช่วงเวลา Hawkish ที่มีคำแนะนำด้านอัตราดอกเบี้ยที่สูง ขึ้นมักจะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้นเป็นที่น่ากังวล อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะจำกัดการกู้ยืม และ การใช้จ่าย เพื่อการจัดการกับอัตราเงินเฟ้อที่สูง
โดยสรุป การประชุมของ FOMC มีความสำคัญเนื่องจากการประกาศแต่ละครั้งจะส่งผลต่อธนาคารกลางอื่นๆ รวมทั้งภาคการธนาคารในสหรัฐฯ และ ภาคการเงินในวงกว้าง รายงานการประชุมของ Fed จึงเป็นมาตรวัดประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และ อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาด Forex
การประชุม FED หรือ FOMC Meeting สำคัญกับการเทรดอย่างไร ?
ประชุม FOMC คือการหารือ และ วิเคราะห์สถานการณ์ของเศรษฐกิจ เพื่อรับมือ และ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ โดยตลาดมักจับตามองผลลัพธ์การประชุมนี้คือการปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น สินทรัพย์ และ ตราสารต่างๆ ทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่คริปโตด้วย
กำหนดการประชุมของ FOMC
การประชุม FOMC จะจัดขึ้น 8 ครั้งต่อปี โดยมากจะจัดขึ้นเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และ ธันวาคม แต่ควรติดตามอัปเดตข้อมูลการประชุมFed อีกครั้งในตอนต้นปี
ที่มา : https://admiralmarkets.sc/th
บัญชีทดลองเทรด
ฝึกฝนการเทรดในตลาดจริงด้วยเงินจำลอง หรือ Demo Account เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการฝึกเทรดได้อย่างอิสระ มีระบบคำนวณกำไร – ขาดทุนแบบอัตโนมัติให้ศึกษาเปิดบัญชี Demo ฟรี!
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
คู่มือการเทรด และ ลงทุนในดัชนี DAX 40 ฉบับใช้ได้จริง!