Flag pattern forex คืออะไร อธิบายง่าย ๆ สำหรับมือใหม่เริ่มเทรด

Flag pattern forex คืออะไร

มือใหม่เริ่มเทรดฟอเร็กซ์เข้ามาเรียนรู้รูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิค Flag pattern ที่ลักษณะของกราฟเป็นรูปแบบต่อเนื่อง ด้วยสัญญาณการฝ่าวงล้อมที่ชัดเจนทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสในการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ หลังจากที่เข้าใจถึงความแตกต่าง และ รู้จักวิธีการใช้งานแล้ว นักเทรดจะได้รับเครื่องมืออันทรงพลังเพื่อเทรดด้วยความมั่นใจ อ่านกลยุทธ์ Flag pattern และ เปิดราคาทดลองเทรดไปพร้อม ๆ กัน

Flag pattern

Flag pattern คืออะไร?

Flag pattern คือ รูปแบบต่อเนื่อง ลักษณะของกราฟคล้ายกับธงที่กำลังปลิวไสวไปมา จัดเป็นรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรดฟอเร็กซ์ยอดนิยม

เหตุผลที่รูปแบบนี้เป็นรูป Flag หรือ ธงก็เพราะว่าในการเคลื่อนไหวของราคาในธงนี้มีการรวมตัวกันอย่างแน่นหนา โดยทั่วไปรูปแบบจะประกอบด้วยแท่งราคาระหว่างประมาณห้าถึงสิบห้าแถบ เป็นรูปแบบราคาที่กรอบราคาเคลื่อนที่ในเวลาสั้นกว่าแนวโน้มราคาในกรอบเวลายาวขึ้นบนกราฟราคา

รูปแบบธงอาจเป็นได้ทั้งแนวโน้มขาขึ้น (bullish flag) หรือ แนวโน้มขาลง (bearish flag) รูปแบบของธงมีลักษณะสำคัญ ได้แก่

  • เสาธง: หมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่พักแกร่งที่เริ่มต้นซึ่งก่อตัวเป็นเส้นแนวตั้ง โดยทั่วไปรูปแบบธงจะเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนตัวของทิศทางที่รุนแรง หรือ ที่เรียกว่าแนวโน้มก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวกำหนดขั้นตอนสำหรับระยะการรวมตัวภายในรูปแบบนี้
  • ธง: หมายถึงระยะเวลาการรวมที่ก่อตัวเป็นเส้นแนวนอน เส้นเหล่านี้รวมกันเป็นรูปร่างคล้ายธงซึ่งบ่งบอกถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มก่อนหน้าเป็นขั้นตอนการพักราคา ราคาจะเคลื่อนไหวภายในช่อง หรือ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า 
  • การฝ่าวงล้อม: หรือ Breakout ที่เกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนตัวเกินขอบเขตของช่องทางการรวมตัว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่แนวโน้มก่อนหน้าจะกลับมาเริ่มต้นใหม่
  • Retest: เป็นช่วงเวลาที่รอตรวจสอบรูปแบบราคาหลังสามารถจากที่ฝ่าวงล้อมทะลุกรอบไปได้ และ ให้ความมั่นใจแก่เทรดเดอร์ในการเข้าซื้อ หรือขาย

Flag pattern ทำงานอย่างไร

แพทเทิร์นนี้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เทรดเดอร์ใช้เพื่อระบุจุดต่อเนื่องที่อาจเกิดขึ้นภายในแนวโน้มที่มีอยู่ ประกอบด้วยสององค์ประกอบหลัก ได้แก่ เสาธง และธง สำหรับเสาธงแสดงถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่คมชัด และ มีนัยสำคัญในทิศทางของแนวโน้มที่เกิดขึ้น ในขณะที่ธงนั้นก่อตัวขึ้นจากช่วงเวลาของการพักตัว โดยที่ราคาเคลื่อนไหวภายในช่องทาง หรือ ก่อตัวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขั้นตอนการพักตัวนี้มีความสำคัญเนื่องจากช่วยให้เทรดเดอร์สามารถแยกแยะการเคลื่อนไหวของราคาล่าสุดก่อนที่แนวโน้มจะกลับมาอีกครั้งได้

เมื่อระบุรูปแบบธงแล้ว เทรดเดอร์จะรอการยืนยันความถูกต้อง โดยทั่วไปการยืนยันจะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุออกจากรูปแบบธงในทิศทางของแนวโน้มก่อนหน้า การฝ่าวงล้อมนี้เป็นสัญญาณว่าช่วงสั้น ๆ ของการพักตัวของราคาที่กำลังจะสิ้นสุดลง และ แนวโน้มที่เกิดขึ้นนั้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป ดังนั้น เทรเดอร์มักจะเข้าสู่การเทรดในทิศทางของการฝ่าวงล้อม โดยตั้งค่าคำสั่งหยุดขาดทุนให้ต่ำกว่าระดับต่ำ (สำหรับ bearish flag) หรือ สูงกว่าระดับสูงสุด (สำหรับ bullish flag) ของรูปแบบธงเพื่อจัดการความเสี่ยง นอกจากนี้ เทรดเดอร์อาจกำหนดเป้าหมายการทำกำไรตามความยาวของเสาธง หรือ ตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ

จุดเด่นของ Flag pattern

Flag pattern ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการระบุจุดต่อเนื่องที่อาจเกิดขึ้นภายในแนวโน้มที่มีอยู่ สำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ที่มีประสิทธิภาพ จุดเด่นที่สำคัญของรูปแบบธงในฟอเร็กซ์ ได้แก่ 

  • แนวโน้มที่พักแกร่ง : การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของราคาเริ่มต้นซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่มีอยู่
  • การพักตัวของเรา : ช่วงเวลาที่ช่วงราคาแคบลงหลังแนวโน้มเป็นสัญญาณการหยุดชั่วคราวในตลาดก่อนที่แนวโน้มจะดำเนินต่อไป  
  • เส้นแนวโน้มคู่ขนาน : เกิดขึ้นระหว่างการพักตัวของราคา โดยกำหนดขอบเขตบน และล่าง
  • ปริมาณ : โดยทั่วไปจะลดลงในระหว่างการพักตัวของราคา สำหรับปริมาณที่ลดลงในระหว่างขั้นตอนการพักราคาบ่งชี้กิจกรรมการตลาดที่ลดลงก่อนที่จะเกิดการทะลุกรอบ 
  • การฝ่าวงล้อม : การเคลื่อนไหวของราคาออกจากระยะการพักตัวของราคา 
  • ราคาเป้าหมาย : ระยะทางโดยประมาณที่คาดการณ์จากการทะลุกรอบ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้นต่อไป

ข้อดี และ ข้อเสียของ Flag Pattern

รูปแบบธงในการเทรดฟอเร็กซ์มีข้อดี และ ข้อเสียหลายประการดังต่อไปนี้

ข้อดีของ Flag Pattern

✅ สัญญาณความต่อเนื่องที่ชัดเจน: รูปแบบธงช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับสัญญาณที่ชัดเจนจากความต่อเนื่องของแนวโน้มหลังจากการพักราคาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุจุดเข้าที่เป็นไปได้ในทิศทางของแนวโน้มที่เกิดขึ้น

✅ อัตราส่วนความเสี่ยง-ผลตอบแทนที่กำหนด: ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตั้งค่าคำสั่งหยุดการขาดทุนได้อย่างแม่นยำที่ต่ำกว่าระดับต่ำ (สำหรับ bearish flag) หรือ สูงกว่าระดับสูงสุด (สำหรับ bullish flag) ของรูปแบบ 

 จุดเข้า และ ออกที่ชัดเจน: การทะลุออกจากรูปแบบธงทำให้มีจุดเข้า และ ออกเพื่ออำนวยความสะดวกในการเทรด ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และ ช่วยให้เทรดเดอร์ดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างมั่นใจ

✅ ใช้งานง่าย: รูปแบบธงสามารถนำไปใช้กับกรอบเวลา และ คู่สกุลเงินที่แตกต่างกัน ทำให้กลายเป็นเครื่องมืสำหรับเทรดเดอร์ที่มีสไตล์การซื้อขาย และ ความชอบที่หลากหลายได้

ข้อเสียของ FlagPattern

❌ การฝ่าวงล้อมที่ผิดพลาด: การทะลุจากรูปแบบธงบางครั้งอาจส่งผลให้เกิดสัญญาณที่ผิดพลาด ซึ่งราคาเคลื่อนตัวเกินขอบเขตของรูปแบบในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่จะกลับทิศทาง 

 การตีความผิด: การระบุรูปแบบธงจำอาจมีการตีความคลาดเคลื่อน ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามเทรดเดอร์แต่ละราย ความเฉพาะตัวนี้สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่สอดคล้องกัน และ การตีความรูปแบบที่ผิด

❌ สัญญาณรบกวนของตลาด: ในตลาดที่มีความผันผวน หรือ ในช่วงเหตุการณ์ข่าว รูปแบบธงอาจมีความน่าเชื่อถือน้อยลง เนื่องจากสัญญาณรบกวนของตลาดสามารถบิดเบือนการเคลื่อนไหวของราคา และ นำไปสู่การเคลื่อนไหวที่ไม่แน่นอน

ประเภทของ FlagPattern ในการเทรดฟอเร็กซ์

FlagPattern มีหลายรูปแบบแต่ตัวเด่น ๆ มีดังต่อไปนี้

1.Bull flag คืออะไร?‍

รูปแบบธงกระทิงเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นบนแผนภูมิแท่งเทียนหลังจากการขยับขึ้นครั้งใหญ่ ใน bullish flag ตลาดจะรวมเข้าด้วยกันระหว่างแนวรับ และ แนวต้านสองเส้นคู่ขนาน ก่อนที่จะทะลุแนวต้าน และ กลับสู่แนวโน้มขาขึ้นในที่สุด

เส้นแนวรับ และ แนวต้านก่อตัวเป็นธงซึ่งเป็นที่มาของชื่อรูปแบบ และ การเคลื่อนตัวขึ้นก่อนหน้าคือเสา บ่อยครั้งที่ราคาของตลาดจะเคลื่อนตัวลงภายในธง

bullish flag มองเห็นการหยุดชั่วคราวในแนวโน้มขาขึ้นเดิม แต่ไม่พักแกร่งพอที่จะเห็นการกลับตัว อย่างไรก็ตามราคาจะยังคงทรงตัว หรือ เคลื่อนตัวลงอย่างช้า ๆ เนื่องจากภาวะกระทิงจะทำให้ตลาดไม่ตกมากเกินไป

ในแนวโน้มขาขึ้น ราคาจะมีการเคลื่อนไหวขาขึ้นอย่างรวดเร็ว (เสาธง) ตามมาด้วยช่วงการพักตัวของราคาซึ่งราคาจะมีลักษณะเป็นธงลาดลง

ตัวอย่างรูปแบบธงกระทิง bull flag

ลองนึกภาพแผนภูมิที่มีแกนนอนแทนเวลา และ แกนตั้งแทนราคาของคู่สกุลเงิน EUR/USD กราฟเริ่มต้นที่ราคา 1.2000 และ ขยับขึ้นไปที่ 1.2200 ในช่วงไม่กี่วัน ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น

ตามแนวโน้มขาขึ้น คุณจะเห็นระยะการรวมตัวซึ่งราคาจะสร้างรูปแบบธง รูปแบบนี้มีลักษณะเป็นเส้นแนวโน้มลาดลงที่เชื่อมระหว่างจุดสูงสุด และ เส้นแนวโน้มคู่ขนานที่เชื่อมต่อจุดต่ำสุด ทำให้เกิดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือ รูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน ในกรณีนี้ รูปแบบธงจะถูกจำกัดไว้ที่ระหว่าง 1.2150 ถึง 1.2180

การแสดงสิ่งนี้บนกราฟจะแสดงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน ตามด้วยระยะเวลาการรวมราคาที่แสดงด้วยรูปแบบธง ซึ่งบ่งชี้ถึงความต่อเนื่องที่เป็นไปได้ของแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้าเมื่อการรวมฐานสิ้นสุดลง

2. Bear flagpattern คืออะไร?

Bearish flags  คือการก่อตัวที่เกิดขึ้นเมื่อความชันของช่องทางที่เชื่อมต่อจุดสูง และ ต่ำของราคาที่รวมเข้าด้วยกันหลังจากการเคลื่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญนั้นขนาน และ เพิ่มขึ้น แนวโน้มก่อนธงต้องลง

รูปแบบธงหมีเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับรูปแบบกระทิง หลังจากการเคลื่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ตลาดจะติดอยู่ระหว่างแนวรับ และ แนวต้าน ซึ่งมักจะเริ่มมีแนวโน้มขาขึ้น แต่แล้วเกิดการทะลุเกินเส้นแนวรับ และ สภาวะตลาดหมีเดิมก็กลับมาอีกครั้ง

ธงในรูปแบบหมีอาจชี้ขึ้น หรือ ดูราบเรียบ ตราบใดที่เส้นแนวรับ และ แนวต้านขนานกัน ในแนวโน้มขาลง ราคาจะมีการเคลื่อนไหวลดลงอย่างรวดเร็ว (เสาธง) ตามมาด้วยช่วงการพักตัวซึ่งราคาจะมีลักษณะเป็นธงลาดขึ้น

ตัวอย่างรูปแบบธงหมี bear flag

ตามแนวโน้มขาลงของคู่สกุลเงิน USD/JPY จาก 110.00 ถึง 108.50 ระยะต่อมาจะเป็นช่วงพักที่มีเครื่องหมายรูปแบบธง โดยทั่วไปรูปแบบนี้จะปรากฏเป็นการหยุดชั่วคราวภายในแนวโน้มที่กว้างขึ้น ซึ่งมักจะบ่งบอกถึงการหยุดชั่วคราวในทิศทางที่เป็นอยู่ ในกรณีนี้ รูปแบบธงแสดงความลาดเอียงขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงความกดดันด้านราคาที่สูงขึ้นนั่นเอง

กลยุทธ์การเทรดใดดีที่สุดสำหรับ FlagPattern

วิธีสำคัญในการเทรดด้วยรูปแบบธงคือการมองหาการทะลุที่ด้านบน หรือ ด้านล่างของรูปแบบธง สัญญาณซื้อถือเป็นขอบเขตบนของการฝ่าวงล้อมด้านบน และ สัญญาณการขายถือเป็นขอบเขตล่างของการฝ่าวงล้อมด้านล่าง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกลยุทธ์สำหรับ FlagPattern ดังต่อไปนี้

กลยุทธ์การฝ่าวงล้อม

การยืนยันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจสอบความต่อเนื่องที่อาจเกิดขึ้นของแนวโน้มก่อนหน้า มองหาการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจนเหนือเส้นแนวโน้มด้านบนสำหรับธงภาวะกระทิง และ ด้านล่างเส้นแนวโน้มด้านล่างสำหรับธงภาวะหมี กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบซื้อขายโมเมนตัม และ สามารถรับมือกับความผันผวนที่ตามมาจากการทะลุกรอบ

กลยุทธ์การดึงกลับ

เกี่ยวข้องกับการรอให้ราคาย้อนกลับไปยังเส้นแนวโน้มด้านล่างของรูปแบบธงก่อนที่จะเข้าสู่ตำแหน่งยาว หรือ เส้นแนวโน้มบนก่อนที่จะเข้าสู่ตำแหน่งขาย เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าสู่การซื้อขายในราคาที่ดีกว่า และ สามารถรอให้เกิดการกลับตัวได้

กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Range 

การเทรดในตลาดที่เล่นเป็น “กรอบ” หรือ “ไซด์เวย์” เกี่ยวข้องกับการซื้อที่เส้นแนวโน้มด้านล่าง และ การขายที่เส้นแนวโน้มด้านบนของรูปแบบธง กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Range มีไว้สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการซื้อขายในตลาดที่มีขอบเขตขอบเขต และ สามารถจัดการกับความผันผวนของราคาภายในรูปแบบธงได้

จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแผนการซื้อขายที่ชัดเจน กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง และ มีวินัยในการดำเนินการตามกลยุทธ์ที่เลือกอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

การบริหารความเสี่ยง และ ศักยภาพในการทำกำไร 

อย่าลืมใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่ดีเพื่อปกป้องเงินทุน และ เพิ่มอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน คำนวณขนาดตำแหน่งตามระดับความเสี่ยงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และ ให้แน่ใจว่าผลกำไรที่เป็นไปได้มีมากกว่าการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ตั้งเป้าหมายผลกำไรที่สมจริงโดยการวัดความสูงของเสาธงแล้วฉายจากจุดทะลุ หรือ ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ

วิธีการเทรด Flag pattern

FlagPattern เป็นรูปแบบกราฟยอดนิยมที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่การซื้อขายได้เมื่อราคาทะลุเหนือ หรือ ใต้เส้นแนวโน้มบน หรือล่าง ขั้นตอนหลักคือการมองหาการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว ตามด้วยช่วงการพักราคาซึ่งสร้างรูปทรงแบบธง

การเทรด FlagPattern เป็นแนวทางที่เป็นระบบเพื่อระบุ ยืนยัน และ ดำเนินการซื้อขายตามรูปแบบทางเทคนิคด้วย วิธีการเทรดต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 หาจังหวะการเข้าซื้อ

การตั้งค่าสถานะบ่งบอกถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มปัจจุบัน แต่ควรรอจนกว่าจะถึงจุดทะลุเริ่มต้นเพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณบ่งชี้ที่ผิดพลาด 

ในขั้นตอนนี้ให้ทำการระบุการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางที่พักแกร่งที่เรียกว่าเสาธงที่อาจเป็นการเคลื่อนไหวของราคาขาขึ้น (bullish flag) หรือขาลง (bearish flag) อย่างรวดเร็ว มองหาช่วงเวลาของการพักตัวตามเสาธง ทำให้เกิดรูปแบบธง ธงควรแสดงเส้นแนวโน้มคู่ขนาน ซึ่งบ่งชี้ถึงการหยุดชั่วคราวในแนวโน้ม

ขั้นตอนที่ 2 การยืนยันการฝ่าวงล้อม:

รอการทะลุออกจากรูปแบบธงเพื่อยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้มก่อนหน้า การฝ่าวงล้อมแบบกระทิงเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนตัวเหนือเส้นแนวโน้มด้านบนของธง ในขณะที่การฝ่าวงล้อมภาวะหมีเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นแนวโน้มล่าง

ขั้นตอนที่ 3 ตั้งค่าหยุดการขาดทุน

ในขั้นตอนนี้ให้วางคำสั่งหยุดการขาดทุนเพื่อจัดการความเสี่ยง สำหรับการเทรด Long สามารถวาง Stop Loss ไว้ใต้จุดต่ำสุดของแท่งเทียนทะลุ ในขณะที่สำหรับการเทรด Short สามารถวางไว้เหนือจุดสูงสุดของแท่งเทียนทะลุได้ และอย่าลืมกำหนดราคาเป้าหมายโดยการวัดความสูงของเสาธงจากจุดทะลุ หรือ ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค หรือ ระดับแนวรับ/แนวต้านอื่น ๆ เพื่อกำหนดเป้าหมายกำไร

ขั้นตอนที่ 4 การบริหารความเสี่ยง:

ใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น การกำหนดขนาดตำแหน่ง และ การวิเคราะห์อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน เพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ อย่าเสี่ยงเกินกว่าเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของทุนการซื้อขายของคุณในการซื้อขายใดๆ และ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นมีมากกว่าการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

ขั้นตอนที่ 5 การติดตามการเทรด:

คอยจับตาดูการซื้อขายอย่างใกล้ชิดในขณะที่มันดำเนินไป ปรับระดับ Stop-Loss และ Take-Profit หากจำเป็นตามการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด หรือ การพัฒนาราคาใหม่ รักษาวินัย และ หลีกเลี่ยงการตัดสินใจทางอารมณ์ โดยยึดตามแผนการซื้อขายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

สรุป Flag pattern

FlagPattern ในฟอเร็กซ์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการระบุโอกาสต่อเนื่องของแนวโน้ม ประกอบด้วยเสาธงตามด้วยช่วงระยะเวลาการพักตัว เสนอจุดเข้า และ ออกที่ชัดเจนสำหรับเทรดเดอร์ ด้วยการทำความเข้าใจ และ ใช้รูปแบบนี้อย่างมีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์จึงสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในการทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นภายในตลาดฟอเร็กซ์ได้

ที่มา : https://www.mitrade.com/th/insights

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

รู้จักกับรูปแบบแท่งเทียนในรูปแบบต่างๆ การกลับตัวของแท่งเทียนสัณญาณขาขึ้น และ ขาลงที่ควรสังเกตุ